วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

5. Adjective คือ คำที่ขยายคำนามหรือสรรพยาม ตำแหน่งมีแค่ 2 ที่ เน้นๆ อยู่หลัง v.to be และ อยู่หน้าคำนามที่้มันขยายเสมอ
ตำแหน่งที่ 1 อยู่หลัง v. to be
เช่น I am beautiful. ฉันสวย (ประโยคนี้ adjective อยู่หลัง am ซึ่งเป็น v. to be ถูกไหม และหน้าที่ของมันก็คือขยายคำนามหรือสรรพนามนั่นแหล่ะ ก็ขยายคำว่า I ไง หมายถึง I สวย ฮิฮิ)
ตำแหน่งที่ 2 อยู่หน้าคำนามที่มัันขยายค่ะ
เช่น pretty girl เด็กหญิงผู้น่ารัก (pretty เป็นคำ adjective แปลว่า น่ารัก ขยายคำว่า เด็กผู้หญิง ให้ได้ใจความชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ สังเกตุไหมคะว่า อยู่หน้าคำนาม)
แต่เดี๋ยวก่อน อย่าละเลิงใจไป โปรดจำไว้ว่า adjective ขยายนามที่อยู่ข้างหลัง
ส่วน adjective clause ขยายนามที่อยู่ข้างหน้า ซึ่งจะอยู่ในเรื่องของประโยคความซ้อนค่ะ แต่วันนี้เราจะไม่พูดถึงประโยคความซ้อนกัน เดี๋ยวไม่จบ
อาฮ่าๆ เมื่อเรารู้จักหน้าที่และตำแหน่งของ adjective ไปเรียบร้อยแล้ว ขาดไม่ได้เลย เราต้องรู้จักการเรียงตำแหน่งของ adjective ด้วย
ในกรณีที่เราจะใช้ adjective หลายๆตัว ขยายคำนามพร้อมกัน อยากทราบไหมคะว่าจะนำคำไหนมาเรียงก่อนกัน ติ๊กต่อกๆๆ
ให้เรียงอย่างงี้เลย
opinion size age shape colour origin material N1 N2 (ท่องแปดลำดับนี้ให้ได้นะคะ ท่องเป็นภาษาอังกฤษนะ)
ความคิดเห็น ขนาด อายุ รูปร่าง สี ต้นกำเนิด วัสดุที่ทำ นาม1 นาม2
tip
size รวมถึง lenght ที่เป็นความยาวด้วยนะคะ
shape รวมถึง width ที่เป็นความกว้าง
ตัวอย่างเช่น ให้ท่านผู้อ่านลองเรียง adjective ที่ขีดเส้นใต้เหล่านี้สิคะว่าจะนำคำไหนขึ้นก่อน
black beautiful straight long hair
เฉลยแล้วนะ
beautiful long straight black hair. เป็นคำตอบที่ถูกต้องค่ะ เรียงตามลำดับเลยนะ
beautiful เป็น opinion เป็นความคิดเห็นว่า ผมสวยหรือไม่สวย
long เป็น size ค่ะ บ่งบอกว่า มีผมยาว และที่สำคัญ size รวมถึงความยาวด้วย
straight เป็น shape ค่ะ (size มาก่อน shape ถูกต้องแล้ว) บ่งบอกว่า รูปร่างของผมว่าเป็นผมตรง
black เป็น colour ค่ะ ผมมีสีดำ
แหมๆๆๆ เรียงลำดับ adjective นี้สนุกจริงๆเลย อยากให้ท่านผู้อ่านจำให้ได้เสียจริงๆ ท่องก็ไม่ยากค่ะ แถมคล้องจองกันด้วย อย่าลืมนะคะว่าopinion size age shape colour origin material N1 N2 เพียงเท่านี้ เรียงกันอย่างเมามัน สู้ๆค่ะ เราจะได้ขยายคำนามได้อย่างมืออาชีพ ไม่ต้องพูดให้เมื่อยปากทีละประโยคหลายๆประโยค แค่ขยายคำนามด้วย adjective ลวดเดียว ก็ประหยัดน้ำลายได้เยอะ จริงมะ
กลับมาข้อ 4 ใหม่ค่ะ  Adverb
ตอนแรกบอกไปแค่่ว่า adverb ขยาย verb ใช่ไหมคะ แล้วก็เปลี่ยนเรื่องกระทันหัน


แล้วพอถึงเรื่อง adjective ก็บอกไปอีกว่า Adjective ขยาย คำนามได้อย่างเดียว จริงไหม
แต่มาตอนนี้ อยากจะบอกเพิ่มค่ะว่า Adverb ไม่ใช่แค่ขยาย verb ได้อย่างเดียว
Adverb ขยายได้ 3 อย่าง คือ ขยาย verb, adjective หรือแม้กระทั้ง ขยาย adverb ด้วยกันเองก็ได้ค่ะ พี่ Adverb นี่เจ๋งจริงๆใช่ไหม สุดยอดเลย ข้าน้อยขอคาราวะ
ไม่มีผู้ใดจะมาสู้พี่ Adverb ของเราได้อีกแล้ว
เรามาดูกระบวนการขยายของพี่ adverb กันค่ะ
เมื่อพี่ adverb ขยาย verb พี่เขาจะอยู่ได้ 3 ตำแหน่ง ดังต่อไปนี้
1. Slowly, I walk to school. พี่adverb อยู่หน้าประโยค เวลาที่เน้นกริยาเป็นพิเศษ
2. I walk to school slowlyพี่ adverb อยู่หลัง verb เมื่ออยากขยาย verb แบบ เบๆ ปกติ ไ่ม่มีอะไรเป็นพิเศษ
3. I always walk to school. พี่ adverb อยู่หน้า verb เมื่อเป็น adverb บอกความถี่ (พี่ adverb บอกความถี่ก็อยู่หน้าประโยคได้นะเออ ถ้าต้องการเน้นกริยาเป็นพิเศษ แต่พี่ adverb บอกความถี่อยู่หลัง verb ไม่ไ้ด้ แค่นั้นเอง)
เมื่อพี่ adverb ขยาย adverb ด้วยกันเอง ตำแหน่งของพี่เขาจะอยู่ หน้า adverb ที่ขยาย
I walk very slowly. (very เป็น adverb ขาย slowly ซึ่งเป็น adverb เหมือนกัน หมายถึง ช้ามากๆ)
เมื่อพี่ adverb ขยาย adjective หล่ะ ตำแหน่งของพี่เขาจะอยู่หน้า adjective ที่พี่เขาต้องการขยายค่ะ
I think you are pretty pretty. ฉันคิดว่าคุณน่ารักยกกำลัง 2
แป่ว ล้อเล่นๆๆ มีใครแปลได้แบบนี้มั๊ยคะ pretty pretty แปลว่า น่ารักยกกำลัง 2
ถ้าคุณแปลแบบนี้ แสดงว่า คุณยังไม่รู้จักคำว่า pretty ดีพอ
จริงอยู่ที่ pretty แปลว่า น่ารัก ถ้าคำนั้นเป็น adjective
แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามที่ pretty เป็น adverb ความหมายจะเปลี่ยนทันที กลายแปลว่า ค่อนข้างค่ะ เหมือนคำว่า quite
ถ้าเราแยกไม่ถนัด Grammarman จะขออธิบายอีกครั้ง
 I think you are pretty pretty. (pretty สีแดง นี้ เป็นคำ adjective อยู่หลัง v.to be) , (ส่วน prettyสีม่วง อยู่หน้า prettyสีแดง)
อ้า เป็นไปได้ไหมที่ pretty สีม่วง จะเป็น adjective ได้เหมือนกับสีแดง
ก่อนอื่น เราต้องกลับมาคิดดูอีกทีว่า adjective ขยาย adjective กันเองได้ไหม
คำตอบคือ adjective ขยายคำนามได้อย่างเดียวเท่านั้น มีแต่พี่ adverb เท่านั้นแหล่ะที่จะสามารถขยาย adjective ได้ เพราะพี่ adverb เขาแน่จริง
เอาหล่ะ ในเมื่อ pretty สีม่วง เป็น adverb ดังนั้น pretty สีม่วง ควรแปลว่าอะไรดี
เย้ๆ เก่งมากๆค่ะ ท่านผู้อ่าน pretty สีม่วง แปลว่า ค่อนข้าง นั่นเอง เยี่ยมๆไปเลยค่ะ
สรุปแล้้้ว ประโยคที่ว่า I think you are pretty pretty. = I think you are quite pretty. แปลว่า ฉันคิดว่าคุณค่อนข้างน่ารัก
สรุปแล้ว ค่อนข้างน่ารัก แล้ว น่ารักรึเปล่าเนี่ย งง สงสัย ถูกหลอกด่าแน่เลย ว๊า แย่ัจังๆๆ
เล่นต่ออีกนิด
แล้ว pretty ugly หล่ะ แปลว่าอะไร
แปลว่า ค่อนข้าง น่าเกลียดน่ะสิ แว๊กกกกกกกกก
ถ้ามีใครมาบอกว่าเรา pretty ugly นี่ ก็ไม่ไหวแล้วนะ เหอๆๆๆ
6. Preposition ใช้เพื่อระบุ ตำแหน่ง วัน เวลา และสถานที่
พี่ prep. บอกตำแหน่ง ได้แก่ at, in, on, under, next to, beside, behide, in front of, etc.
พี่ prep. บอกวันใช้ on บอกเดือนและปีใช้ in (ถ้าบอก วันเดือนปี พร้อมกัน ให้ใช้ on)
พี่ prep. บอกเวลาใช้ at
พี่ prep. บอกสถานที่ใช้ at  แต่ถ้าบอกว่า อยู่จังหวัดใด ประเทศใด ใช้ in นะคะ
 7. Conjunction ใช้ เชื่อมคำ หรือ เชื่อมความ
ถ้าเราจำพี่ FANBOYS ได้ก็แจ่มไปเลยค่ะ
F = for
A = and
N = nor
B = but
O = or
Y = yet
S = so
8. Interjection เพิ่มสีสันให้แก่ชีวิต บ่งบอกอารมณ์และความรู้สึก
พี่ interjection นั้น คือ คำอุทาน มีทั้งอุทานเป็นคำ และ อุทานเป็นประโยค เข้าไปศึกษาได้เลยที่ลิ้งนี้ จิ้มๆๆ >>> Interjection Sentence
และในที่สุด เราก็รู้เรื่องราวความเป็นมาของ Parts of Speech
ต่อไปนี้ เราจะสามารถใช้มันอย่างถูกต้อง และไม่อายใครค่ะ นี่เป็นบันไดพื้นฐานสำคัญที่จะนำคุณไปสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษต่อไปอดทนต่อไปนะคะ เปิดใจเรียนรู้กับมัน ไม่ยากเลยใช่ไหมหล่ะค่ะ
สำหรับวันนี้ ก็หมดเวลาของ Grammarman แล้ว ขอให้ทุกคน รักภาษาอังกฤษมากขึ้นเรื่อยๆค่ะ

Grammarman ภูิมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของทุกคนค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น